การสำรองห้องพักในโรงแรมไม่ได้มีเพียงประเภทเดียว เพราะแขกผู้เข้าพักต่างมีความต้องการและจุดประสงค์ในการเข้าพักที่แตกต่างกัน โรงแรมจึงต้องทำความเข้าใจประเภทของแขกผู้เข้าพักที่หลากหลายเหล่านี้ เพื่อสามารถให้บริการที่ตอบโจทย์และสร้างความพึงพอใจสูงสุด มาดูกันว่าประเภทของแขกที่มักทำการสำรองห้องพักในโรงแรมมีอะไรบ้าง
1. นักเดินทางธุรกิจ
นักเดินทางกลุ่มนี้มักจะจองห้องพักเพื่อจุดประสงค์ในการทำธุรกิจหรือประชุมสัมมนา จึงให้ความสำคัญกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่สนับสนุนการทำงาน เช่น Wi-Fi ที่มีความเร็วสูง พื้นที่โต๊ะทำงาน และห้องประชุมหรือศูนย์ธุรกิจ การบริการที่สะดวกสบาย เช่น การบริการอาหารเช้าแบบรวดเร็ว และการเช็คเอาต์ล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเดินทางธุรกิจ
2. นักท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อน
นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีเป้าหมายเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจและสำรวจสถานที่ใหม่ๆ พวกเขามักจองห้องพักที่มีวิวสวย บรรยากาศเงียบสงบ และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการพักผ่อน เช่น สระว่ายน้ำ สปา และฟิตเนส นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับประสบการณ์และกิจกรรมที่โรงแรมจัดเตรียมไว้มากกว่าแค่การพักค้างคืน
3. ครอบครัว
นักท่องเที่ยวที่เดินทางเป็นครอบครัวมักให้ความสำคัญกับห้องพักที่มีขนาดใหญ่หรือห้องพักแบบเชื่อมติดกัน เพื่อให้สมาชิกทุกคนสามารถเข้าพักร่วมกันได้อย่างสะดวกสบาย พวกเขามักมองหาสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมสำหรับเด็ก เช่น สระว่ายน้ำสำหรับเด็ก กิจกรรมเสริมสำหรับครอบครัว และเมนูอาหารที่เหมาะสำหรับเด็กเล็ก
4. คู่รักและคู่ฮันนีมูน
คู่รักที่มาพักผ่อนหรือฉลองฮันนีมูนมักมองหาห้องพักที่มีบรรยากาศโรแมนติกและเป็นส่วนตัว เช่น ห้องพักที่มีวิวทะเลหรือวิวเมืองพร้อมระเบียงส่วนตัว และการบริการที่ใส่ใจในรายละเอียด เช่น อ่างอาบน้ำในตัว เตียงนอนนุ่มสบาย หรือเซอร์ไพรส์ด้วยการตกแต่งห้องให้พิเศษ การบริการอาหารในห้องพักและบริการอาหารเย็นสุดพิเศษมักเป็นที่ต้องการสำหรับคู่รักกลุ่มนี้
5. กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเป็นกลุ่มใหญ่
กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเป็นกลุ่มใหญ่ เช่น กลุ่มเพื่อนหรือกลุ่มทัวร์ มักจองห้องพักหลายห้องพร้อมกัน หรือห้องพักขนาดใหญ่ที่สามารถพักร่วมกันได้หลายคน โรงแรมควรมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับความต้องการของกลุ่มขนาดใหญ่ เช่น ห้องประชุมสำหรับการรวมตัว การบริการรับส่ง และพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถใช้ร่วมกันได้
6. แขกมุสลิมและนักเดินทางต่างชาติ
แขกมุสลิมและนักเดินทางที่มีความต้องการเฉพาะด้านศาสนาหรือวัฒนธรรมมักให้ความสำคัญกับโรงแรมที่มีการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษ เช่น อาหารฮาลาล พื้นที่สำหรับละหมาด หรือบริการที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมเฉพาะ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติอาจต้องการความช่วยเหลือด้านภาษาและข้อมูลท้องถิ่นที่เข้าใจง่าย โรงแรมที่มีพนักงานที่สามารถสื่อสารได้หลากหลายภาษาจะช่วยให้แขกกลุ่มนี้รู้สึกอุ่นใจมากขึ้น
7. นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและสุขภาวะ จึงมักมองหาที่พักที่มีฟิตเนส สปา หรือสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการออกกำลังกาย นอกจากนี้การให้บริการอาหารที่เหมาะสมกับการดูแลสุขภาพ เช่น อาหารปราศจากน้ำตาลและกลูเตน หรืออาหารที่เน้นโปรตีนสูง จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้
8. นักท่องเที่ยวแบบดิจิทัลโนแมด (Digital Nomads)
นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้คือกลุ่มคนที่ทำงานจากระยะไกลผ่านการใช้อินเทอร์เน็ต พวกเขามองหาที่พักที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียร พร้อมพื้นที่ทำงานที่สะดวกสบาย การมีบริการพิเศษ เช่น ห้องประชุมขนาดเล็กหรือ Co-working Space ในโรงแรม จึงเป็นการตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้อย่างดี
การรู้จักประเภทของแขกที่ทำการสำรองห้องพักจะช่วยให้โรงแรมสามารถปรับการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกได้ตรงตามความต้องการของแขกแต่ละกลุ่ม นอกจากนี้ยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีและความประทับใจในการเข้าพัก ทำให้แขกรู้สึกพึงพอใจและอยากกลับมาใช้บริการในอนาคต