บางพลัด เป็นย่านเก่าแก่เป็นแขวงหนึ่งที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ย่านบางพลัดนี้ มีทั้งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ยังคงอยู่มากมาย คอยให้ทุกท่านมาเที่ยวย่านนี้ พร้อมย้อนรอยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ผ่านร้านอาการ หรือพิพิธภัณฑ์ ท้องถิ่น ไปพร้อมๆ กัน
1. พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร เขตบางพลัด :
บางพลัดนั้นเป็นถิ่นอาศัยดั้งเดิมของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น “ข้าราชการ 3 แผ่นดิน” อย่าง เจ้าพระยามุขมนตรี (อวบ เปาโรหิตย์) ที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาประเทศมากมาย และเป็นผู้สร้างวัดเปาโรหิตย์ตลอดจนโรงเรียนวัดเปาโรหิตย์ขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจและก่อประโยชน์ให้กับท้องถิ่นนี้อีกด้วย นั่นเป็นที่มาของการจัดตั้งหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ทรงคุณค่าระดับชาติซึ่งซ่อนตัวอยู่ในย่านบางพลัดนี้ ตัวพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ภายในเรือนไม้โบราณสองชั้นที่ขึ้นป้ายว่า “โรงเรียนท่านน้อย ชั้น 1 จะเป็นส่วนของ พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร เขตบางพลัด ที่จัดแสดงข้อมูลความรู้ต่างๆ ตั้งแต่วัฒนธรรมท้องถิ่นไปจนถึงประวัติศาสตร์ของย่านที่น่าสนใจ ส่วนชั้นที่ 2 จะเป็นพิพิธภัณฑ์ย่อย พิพิธภัณฑ์เจ้าพระยามุขมนตรี (อวบ เปาโรหิตย์)
2. กาแฟบ้านบางอ้อ :
ถ้าถามคนแถบนี้ว่าร้านอาหารหรือร้านกาแฟโปรดคือร้านไหน หนึ่งในค่าตอบนั้นจะต้องมีร้านนี้แน่ๆ เริ่มต้นด้วยการเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ในห้องกระจกริมถนนใหญ่ จนขยับขยายมาเป็นร้านอาหารในบ้านหลังโต เสิร์ฟอาหารในรูปแบบ Homemade Kitchen แล้วด้วยความที่ร้านตั้งอยู่ในย่านชุมชนมุสลิม ทุกเมนูที่นี่ก็เลยไม่มีเนื้อหมูเป็นวัตถุดิบ แถมยังมีเมนูมังสวิรัติสําหรับคนรักสุขภาพที่อร่อยไม่แพ้กันด้วย
3. โชคอำนวย :
เข้าซอยวัดบางพลัดไปหน่อยเราจะเจอกับร้านรับท่ากรอบรูปเล็กๆ มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ดูผิวเผินอาจคล้ายร้านกรอบรูปธรรมดาๆ แต่ถ้าลองมองดีๆ แล้วให้อารมณ์เหมือน Art Gallery ของศิลปินหน่อยๆ โดยร้านเดิมนั้นอยู่คู่ย่านบางพลัดมากว่า 40 ปีแล้ว ปัจจุบันร้านรวงต่างๆ ก็หันไปใช้เครื่องมือทันสมัยกันหมดแล้ว เครื่องมือโบราณลักษณะนี้จึงหายากและแทบไม่มีหลงเหลือคนใช้อยู่เลย แต่นั่นกลับเป็นเสน่ห์น่าหลงใหล ซึ่งสถานที่แห่งนี้ยังคงรักษาไว้เช่นเดิม ใครที่เบื่องานสําเร็จรูปหน้าตาเหมือนๆกันไปหมด แล้วอยากลองเปลี่ยนมาหลงใหลเสน่ห์งานไม้ท่ามือแบบโบราณบ้าง ก็ลองแวะมากันดู
4. กูอยู่นี่ :
ร้านทําป้ายเล็กๆ นี้อยู่ติดถนนใหญ่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบางพลัด (MRT สายสีนํ้าเงิน) ตลอดระยะเวลา 40 ปี ที่ผ่านมาคุณลุงพัฒนาฝีมือแกะสลักป้ายไม้มาเรื่อย ท่างานนี้ด้วยใจรักราวกับท่างานศิลปะ ทุกชิ้นลงแรงเองคนเดียวในทุกขั้นตอนแบบม้วนเดียวจบ ถึงแม้ร้านจะรกหน่อย (เพราะคุณลุงอยู่ร้านคนเดียว) แต่ก็ทําให้สัมผัสถึงกลิ่นอายอาร์ตติสได้มากทีเดียว กระบวนการทําป้ายก็มีตั้งแต่เลื่อย แกะ ไปจนถึงขุดตัวอักษรทีเนี้ยบไม่แพ้งานใช้เครื่องมือทันสมัย เอกลักษณ์อีกอย่างก็คือการลงสีทองที่คุณลุงมีเทคนิคพิเศษเฉพาะตัวท่าให้สีออกมาสวยและเรียบเนียน ด้วยฝีมือศิลปินที่ท่างานอย่างพิถีพิถันนี่เองจึงทําให้ลูกค้าส่วนใหญ่มักเป็นลูกค้าเก่า ตามคุณลุงมา และลูกค้าที่บอกปากต่อปาก
5. กล่องทิพย์ :
ใครที่เคยผ่านการท่องร้อยกรอง กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (ร.2) มาแล้ว ก็คงจะเคยได้ยินชื่อต่ารับอาหารไทยโบราณอยู่หลายอย่าง บางตำรับอาจหาทานยากแล้วในยุคนี้ แต่หลายต่ารับก็ยังสืบทอดมาถึงปัจจุบัน กล่องทิพย์ เป็นต่ารับชาววังดั้งเดิมที่เน้นเสิร์ฟความอร่อยแบบอาหารกล่องส่งตรงถึงบ้าน ใครที่อยากลองชิมค่ารับโบราณสูตรชาววังดั้งเดิมซึ่งหลายเมนูต่างก็อยู่ในกาพย์เห่นี้ด้วย แนะนําให้ลองเปิดสํารับกล่องทิพย์ชิมดู ซึ่งทั้งหมดเป็นตำรับชาววังโบราณที่ทางร้านยังคงรสชาติแบบดั้งเดิมไว้ทุกประการ
นี่เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นของรอยเล่าประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ยังคงอยู่ในบางพลัดเก่าแก่ มีอีกมากมายที่คุณสามารถค้นพบและสำรวจได้เมื่อคุณไปเยือนแขวงนี้